Our History
บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีวิสัยทัศน์และแผนการที่จะนำเสนอที่อยู่อาศัยที่เรียบง่ายและเงียบสงบ นำเสนอการออกแบบและก่อสร้างอาคารที่กลมกลืนเป็นมิตรกับธรรมชาติและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
2566
- เมษายน 2566 เปิดขายโครงการ The Halo1 part 2 จำนวน 3 อาคาร 161 ห้อง
- กรกฏาคม 2566
- วันที่ 12 กรกฏาคม 2566 บริษัท 39 เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท บริษัท เอสเซสไวส์ จำกัด (มหาชน)(“ASW”) ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จำนวน 417,169,500 หุ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 57.79
- แจ้งรับทราบการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ บริษัท 39 เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของบริษัท เอสเซสไวส์ จำกัด (มหาชน)(“ASW”) จำนวน 2.50 บาท/หุ้น ซึ่งไม่ใช่การเพิกถอน
- เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- แจ้งได้รับแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ 247-3) จาก บริษัท 39 เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอสเซสไวส์ จำกัด (มหาชน) (“ASW”) จำนวน 2.50บาท/หุ้น ซึ่งไม่ใช่การเพิกถอน
- กันยายน 2566
- แจ้งได้รับสำเนารายงานผลการเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 256-2) จาก บริษัท 39 เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอสเซสไวส์ จำกัด (มหาชน) (“ASW”) จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการเสนอซื้อ จำนวน 488,073,718 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67.61
- พฤศจิกายน 2566
- เปิดขายโครงการ The Title Legendary Bang Tao
- การประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 มีมติเรื่องการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และรายการเกี่ยวโยงกันในธุรกรรมเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว จำกัด รวมถึงรายการเกี่ยวโยงกันในธุรกรรมการรับโอนสิทธิเรียกร้อง
- จัดตั้งบริษัท ไทเทิ้ล โฮเทล ในยาง จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม
- จัดตั้งบริษัท ดิ เอสไควร์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจ บริหารงานนิติบุคคลอาคารชุด
- ธันวาคม 2566
- รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเกี่ยวกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และรายการเกี่ยวโยงกันของบริษัท
- ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 มีมติอนุมัติเรื่องสำคัญดังนี้
- อนุมัติการทำรายการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของบริษัท โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว จำกัด
- อนุมติการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันในธุรกรรมการรับโอนสิทธิเรียกร้องจากบริษัท ซินเนอร์จี้ เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท
- อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากเดิม 360,948,746.50 เป็นทุนจดทะเบียน 415,091,058 บาท
- อนุมัติการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 108,284,623 หุ้น เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering)
- อนุมัตินโยบายการแบ่งแยกธุรกิจ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- อนุมัติเสนอขายหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท
2565
- บริษัทฯ ย้ายสำนักงานกรุงเทพ เดิมตั้งอยู่เลขที่ 53 ถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ไปที่ 444-444/1 ถนนประชาอุทิศ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565
- บอกเลิกสัญญาการบริหารงานโดย Best Western Inc สำหรับ โครงการ The Title เฟส 5 ในส่วนของ Investment Area เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลานี้ บริษัทฯไม่สามารถดำเนินงานในรูปแบบคอนโดเทลได้
- การประชุมคณะกรรมการ ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 มีมติลดทุนจดทะเบียนจากทุนจดทะเบียน เนื่องจากพ้นกำหนดระยะเวลาที่ต้องจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน โดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและยังมิได้จำหน่ายจำนวน 3,728,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ลดทุนจดทะเบียนจำนวน 725,625,493 หุ้น จากทุนจดทะเบียน 362,812,748.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 721,897.493 หุ้น ทุนจดทะเบียน 360,948,746.50 บาท
- เปิดโครงการ The Title Halo เป็นโครงการคอนโดมิเนียม สูง 7 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณ หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต โดยเริ่มเปิดจองในเดือน พฤศจิกายน 2565 Part 1 จำนวน 3 ตึก 168 ห้อง และ Part 2 จำนวน 3 ตึก 161 ห้องภายในปี 2566
2564
- การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2564 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 ได้มีมติเกี่ยวกับการจดทะเบียนลดทุนจด ทะเบียนบริษัท ดังนี้
- ลดทุนจดทะเบียนจํานวน 43.50 บาท จากทุนจดทะเบียน 362,812,790 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 362,812,748.50 บาท
2563
- การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2563 มีมติให้จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทจํานวน 65,627,052 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทต่อหุ้น) คิดเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท ให้แก้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผลรวม มูลค่าทั้งสิ้น 32,813,526 บาท ในกรณีที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการจ่ายเงินปันผลคํานวณได้ออกมาเป็นเศษของหุ้น บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลในส่วนของเศษหุ้นนั้นเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0055555556 บาท กําหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563
- ด้วยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2563 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 ได้มีมติเกี่ยวกับการจดทะเบียนลดทุนจดทะเบียนบริษัท เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท ดังนี้
- ลดทุนจดทะเบียนจํานวน 15.50 บาท จากทุนจดทะเบียน 329,999,279.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 329,999,264 บาท
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจํานวน 32,813,526 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียนจํานวน 329,999,264 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจํานวน 36,281,2790 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล
2562
- การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 มีมติให้จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 219,999,520 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทต่อหุ้น) คิดเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท ให้แก้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผลรวมมูลค่าทั้งสิ้น 109,999,760 บาท ในกรณีที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการจ่ายเงินปันผลคำนวณได้ออกมาเป็นเศษของหุ้น บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลในส่วนของเศษหุ้นนั้นเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0277777778 บาท กำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562
- ด้วยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2562 ได้มีมติเกี่ยวกับการจดทะเบียนลดทุนจดทะเบียนบริษัท เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท ดังนี้
- ลดทุนจดทะเบียนจำนวน 480.50 บาท จากทุนจดทะเบียน 220,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 219,999,519.50 บาท
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 109,999,760 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียนจำนวน 219,999,519.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 329,999,279.50 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล
-
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวัตถุประสงค์เพื่อบริหารการเงิน วงเงินสูงสุดในการซื้อหุ้นคืน 99,000,000 บาท กำหนดจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน 15,000,000 หุ้น จากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 3.41 ของหุ้นที่จำหนายได้แล้วทั้งหมด โดยซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562
จากการที่บริษัทฯ ได้จดทะเบียนจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดเพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ทำให้อัตราส่วนหุ้นที่จะซื้อคืนเปลี่ยนแปลงเป็นร้อยละ 2.27 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว
2561
- บริษัทเปิดขายโครงการ The Title หาดในยาง เฟส 2 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสูง 7 ชั้น บนพื้นที่ 4-3-8 ไร่ จำนวน 220 ยูนิต ตั้งอยู่ที่บริเวณหาดในยาง ถนนเทพกระษัตรี-ในยาง ซอยบางม่าเหลา 2/2 หมู่5 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการประมาณ 798 ล้านบาท และก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2561
- วันที่ 5 ตุลาคม 2561 ลงนามในสัญญาแต่งตั้งกลุ่มบริษัท เบสท์ เวสเทินร์น (Best Western Inc. : BWI) เพื่อบริหารห้องพักโครงการ The Title V (The-Title-We) หาดราไวย์ เฟส 5 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมในรูปแบบคอนโดเทล
- เดือนพฤศจิกายน 2561 เปิดขายโครงการ The Title V (The-Title-We) หาดราไวย์ เฟส 5 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสูง 5 ชั้น บนพื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 228 ยูนิต โดยแบ่งเป็น Investment Area และ Residential Area บริหารงานโดย Best Western Inc. มูลค่าโครงการ 1,011 ล้านบาท
- ซื้อที่ดินบริเวณหาดในยางเพิ่มเติมจำนวน 3-2-9.3 ไร่และหาดบางเทาจำนวน 35-0-4.7 ไร่ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต
2559-2560
เปิดขายโครงการ เดอะ ไทเทิ้ล ในยาง เรสซิเดนส์ อย่างเป็นทางการ
เมษายน
บริษัทเปิดขายโครงการ เดอะ ไทเทิ้ล ในยาง เรสซิเดนซีส์ เฟส 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสูง 7 ชั้น รวมทั้งสิ้น 252 หน่วย มูลค่าโครงการประมาณ 599 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณหาดในยาง ถนนเทพกระษัตรี-ในยาง ซอยบางม่าเหลา 2/2 หมู่ 5 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
พฤษภาคม
จัดตั้งสาขาที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งสาขาขึ้นที่ เลขที่ 469 หมู่ 6 ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
สิงหาคม
เพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งที่ 3 บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 70 ล้านบาทเป็น 140 ล้านบาทโดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการในอนาคต
ตุลาคม
จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเพิ่มทุนจดทะเบียน ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2559 ได้มีมติให้บริษัทจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)” และได้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จาก 100 บาทต่อหุ้น เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น รวมทั้งได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 140 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท ด้วยการออกและเสนอขายหลักทรัพย์จำนวน 120 ล้านหุ้น (ราคาพาร์ 0.50บาท) และวันที่ 2 ตุลาคม 2560 แต่งตั้งให้ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์
พฤศจิกายน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ส่งรับหุ้นสามัญบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและได้เข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ (Frist day Trade)
2558
บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งที่ 2
พฤษภาคม
บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งที่ 2 เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5 ล้านบาทเป็น 70 ล้านบาทโดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการในอนาคต
สิงหาคม
ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 53 ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
2555
กลุ่มของนายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ซื้อหุ้นจากกลุ่มนางสาวสิริรัตน์
กุมภาพันธ์
กลุ่มของนายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ซื้อหุ้นกลุ่มจากนางสาวสิริรัตน์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมตามสัญญาบันทึกข้อตกลงร่วมลงทุนที่ได้ทำขึ้นในปี 2550
กรกฎาคม
บริษัทเปิดขายโครงการ เด็อะ ไทเทิ้ล หาดราไวย์ เฟส 2 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสูง 4 ชั้น รวมทั้งสิ้น 120 หน่วย มูลค่าโครงการประมาณ 452 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าหาดราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
สิงหาคม
บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งที่ 1 จาก 1 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการในอนาคต
ตุลาคม
บริษัทเปิดขายโครงการ เด็อะ ไทเทิ้ล หาดราไวย์ เฟส 3 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสูง 4 ชั้น รวมทั้งสิ้น 240 หน่วย มูลค่าโครงการประมาณ 1,118 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าหาดราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยู่ติดกับพื่้นที่เดิมของเฟส 1 และ เฟส 2
2554
บริษัทเปิดขายโครงการ เด็อะ ไทเทิ้ล หาดราไวย์ เฟส 1 อย่างเป็นทางการ
กันยายน
บริษัทเปิดขายโครงการ เด็อะ ไทเทิ้ล ราไวย์ เฟส 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสูง 4 ชั้น รวมทั้งสิ้น 160 หน่วย มูลค่าโครงการประมาณ 494 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าหาดราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ตุลาคม
ย้ายสำนักงานใหญ่ ไปยังเลขที่ 39/133 ประชาอุทิศ91 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร
2553
ย้ายสำนักงานใหญ่
พฤศจิกายน
ย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังเลขที่ 61 ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
2550
กลุ่มของนายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ร่วมลงทุน
กุมภาพันธ์
กลุ่มของนายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ศักยภาพในการพัฒนาที่ดิน จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมลงทุนเพื่อซื้อหุ้นกลุ่มจากนางสาวสิริรัตน์ สาตราภัยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ นำที่ดินที่บริษัทถือครองบริเวณหาดราไวย์ จังหวัดภูเก็ต มาพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยมีเงื่อนไขตามสัญญาบันทึกข้อตกลงร่วมลงทุนกับผู้ถือหุ้นเดิมที่จะทยอยชำระค่าหุ้นต่อเมื่อสามารถขายอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินดังกล่าวได้
ธันวาคม
เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้” และเปลี่ยนวัตถุประสงค์เป็นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์